language
ภาษาไทย

เฮกินัน: อิ่มอร่อยกับอาหารเลิศรส ณ ถิ่นกำเนิดชิโระโชยุ

เฮกินัน: อิ่มอร่อยกับอาหารเลิศรส ณ ถิ่นกำเนิดชิโระโชยุの画像

ชิโระโชยุ โชยุสีอ่อน รสหวานมีเอกลักษณ์ เหมาะกับอาหารทั้งคาวและหวาน สัมผัสกับรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของชิโระโชยุในเฮกินัน เมืองซึ่งเป็นต้นกำเนิด และลิ้มรสอาหารแสนอร่อยของญี่ปุ่น

2025.04.15

เมืองเฮกินันตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดไอจิ ใกล้อ่าวมิคาวะ เป็นเมืองที่มีอุตสาหกรรมการผลิตประเภทหมักเฟื่องฟู และมีประวัติศาสตร์ด้านวัฒนธรรมอาหารอันยาวนาน ที่สำคัญคือที่นี่เป็นถิ่นกำเนิดของชิโระโชยุ และชิโระดาชิ และยังเป็นที่ตั้งของโคโคโนเอะมิริน โรงผลิตมิรินที่เป็นต้นกำเนิดของมิคาวะมิรินด้วย เครื่องปรุงรสประเภทหมักเหล่านี้มีบทบาทสำคัญคือเป็นวัตถุดิบที่ขาดไม่ได้สำหรับอาหารญี่ปุ่น

ไปทริปกินเที่ยวที่เฮกินัน เรียนรู้และลิ้มรสว่า วัตถุดิบอันมีเอกลักษณ์เหล่านี้สามารถเปลี่ยนรสชาติของอาหารให้อร่อยได้อย่างไร

1. Arigato no Sato : ไขความลับของอาหารญี่ปุ่น

เริ่มต้นทริปดื่มด่ำกับวัฒนธรรมอาหารของเฮกินันที่อาริกาโตโนะซาโตะ (Arigato no Sato) ซึ่งดำเนินการโดยฮิจิฟุคุโจโซ (Hichifuku Brewing) ฮิจิฟุกุโจโซเป็นผู้ผลิตชิโระโชยุและชิโระดาชิเจ้าแรก เริ่มเปิดกิจการเมื่อปี 1950 ปัจจุบันเป็นผู้ผลิตชิโระโชยุรายเดียวที่ได้รับการรับรองมาตรฐานด้านออร์แกนิกจาก JAS

ชิโระโชยุ (ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่นชนิดหนึ่งหรือซีอิ้วขาวญี่ปุ่น) ทำมาจากการหมักถั่วเหลืองและข้าวสาลี แต่จุดสำคัญของชิโระโชยุอยู่ที่อัตราส่วนของวัตถุดิบ โชยุ (ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น) ทั่วไปจะมีถั่วเหลืองประมาณครึ่งหนึ่งและข้าวสาลีอีกครึ่งหนึ่ง แต่ชิโระโชยุทำจากข้าวสาลีเป็นหลักและมีถั่วเหลืองเพียงเล็กน้อย ด้วยเหตุนี้ชิโระโชยุจึงมีจุดเด่นคือมีสีอ่อนและปริมาณน้ำตาลสูง ซึ่งช่วยดึงรสอร่อยตามธรรมชาติของวัตถุดิบอื่นๆ ในอาหารออกมาได้

ชิโระดาชิคือดาชิโชยุ (น้ำสต๊อกหรือน้ำซุปปลาแห้งซอสถั่วเหลืองชนิดเข้มข้น) สไตล์ญี่ปุ่นรสชาติละเอียดอ่อน ซึ่งทำจากชิโระโชยุออร์แกนิกกับดาชิที่คัดสรรวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน อย่างฮอนคาเรคัตสึโอะบุชิ (ปลาโอแห้งเกรดพรีเมี่ยม ที่ไม่ได้แค่รมควัน แต่ยังผ่านการหมักและบ่มรา สลับกับตากแห้งหลายครั้ง จนได้รสอูมามิมากที่สุด ราคาจึงสูง) ที่หายาก ดงโกะแห้ง (เห็ดชิทาเกะหรือเห็ดหอมแห้ง คุณภาพสูง เนื้อหนา เคี้ยวหนึบ รสชาติกลมกล่อม) ที่ผลิตในญี่ปุ่น และคอนบุ (สาหร่ายทะเล) จากฮอกไกโด น้ำซุปอเนกประสงค์นี้สามารถใช้เป็นน้ำสต๊อกของอาหารญี่ปุ่นหลายประเภท เช่น ซุปมิโซะ ทามาโกะยากิ (ไข่ม้วน) และอาหารประเภทต้มตุ๋น

ฮิจิฟุกุโจโซมีความภูมิใจยิ่งที่ได้เป็นผู้พัฒนาชิโระดาชิรายแรก และยังคงรักษาคุณภาพอันยอดเยี่ยมไว้ ด้วยการคัดสรรวัตถุดิบอย่างพิถีพิถันและควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด

เรียนรู้กระบวนการผลิตชิโระโชยุและชิโระดาชิในทัวร์สุดประทับใจที่ Arigato no Sato ในโรงงานของฮิจิฟุกุโจโซ ซึ่งจะได้ชมเทคนิคความเชี่ยวชาญของช่าง สำรวจประวัติศาสตร์ผ่านนิทรรศการ และเยี่ยมชมสถานที่ด้วยตนเอง ไฮไลต์ของทัวร์นี้อยู่ที่ช่วงชิมอาหาร ซึ่งจะได้ลิ้มรสซุปใส ทามาโกะยากิเนื้อนุ่มฟู และผักดองกรอบๆ ซึ่งทั้งหมดเพิ่มความอร่อยยิ่งขึ้นด้วยเครื่องปรุงรสพิเศษของฮิจิฟุกุโจโซ

คุณสามารถสร้างสรรค์ความอร่อยของเมนูเหล่านี้ได้ที่บ้านโดยการซื้อผลิตภัณฑ์ของ Shichifuku Brewery ที่ร้านของพวกเขา มีผลิตภัณฑ์ เช่น "ซอสถั่วเหลืองขาวผัก" สำหรับมังสวิรัติ "ทามาโกะยากิวันนี้♪" ซอสที่ทำจากน้ำซุปถั่วเหลืองที่ทำขึ้นเป็นพิเศษสำหรับทามาโกะยากิ และขนมหวานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะที่ทำจากซอสถั่วเหลืองขาว

คลิกที่นี่เพื่อสมัครทัวร์ชมโรงงานที่ Arigato no Sato

2. Enfants : ลิ้มรสขนมหวานแสนอร่อยที่ทำจากชิโระโชยุ

อองฟองต์ (Enfants) เป็นร้านขนมที่มีเสน่ห์ซึ่งรังสรรค์ขึ้นโดยเชฟขนมหวานผู้เรียนรู้และสั่งสมประสบการณ์มากมายในนาโกย่า โตเกียว และชิบะ ก่อนกลับมาเปิดร้านที่บ้านเกิด จุดเด่นของร้านนี้คือมีเค้กโฮมเมด พุดดิ้ง เบเกอรี่ และอื่นๆ ให้เลือกมากมาย

ปัจจุบัน Enfants เต็มไปด้วยขนมหวานแปลกใหม่ที่ได้รับความนิยม ซึ่งใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น เช่น ชิโระโชยุและฮัตโจะมิโซะ (เต้าเจี้ยวญี่ปุ่นชนิดหนึ่ง สีน้ำตาลแดง มีโซเดียมและไขมันต่ำ มีไฟเบอร์และโปรตีนสูง) หนึ่งในขนมที่ต้องลองคือ “พุดดิ้งชิโระโชยุ” (370 เยน) ขนมหวานรสชิโระโชยุสุดมีเอกลักษณ์ ลองชิมเปรียบเทียบกับพุดดิ้งดั้งเดิมดู แล้วจะค้นพบความพิเศษ

“พุดดิ้งชิโระโชยุ” ของ Enfants สุดทึ่ง! เนื้อสัมผัสมีความเนียนนุ่มอย่างไม่น่าเชื่อ รสอูมามิและรสเค็มที่ละเมียดของชิโระโชยุ เข้ากันได้อย่างลงตัวกับความหวานดั้งเดิมของพุดดิ้ง

การรับประทานพุดดิ้งที่ทำสดๆ ใหม่ๆ ในวันนั้นจะอร่อยที่สุด ลองซื้อไปทิ้งไว้สักคืนแล้วชิมเปรียบเทียบความอร่อยกันได้นะ Enfants ยังมีเบเกอรี่มากมายให้เลือกซื้อ ซึ่งเหมาะกับการเดินทางด้วย นอกจากมาดแลนหรือมาเดอลีน (ขนมอบสัญชาติฝรั่งเศส รูปทรงเปลือกหอย) แบบดั้งเดิม ยังมีมาดแลนสูตรพิเศษที่ใช้ชิโระโชยุและฮัตโจมิโซะ ให้ได้นำรสชาติของเฮกินันกลับบ้านไปเป็นของฝากกันด้วย

มาดแลนชิโระโชยุเป็นของว่างที่เข้ากันได้ดีกับกาแฟหรือชา มาดแลนมิโซะฮัทโชมีกลิ่นหอมและรสชาติเข้ม จึงช่วยเติมพลังได้ดี

แวะมาชม ชิม และเพลิดเพลินกับขนมหวานสุดสร้างสรรค์ของ Enfants แล้วค้นจะพบว่า Enfants มีการผสมผสานอาหารหมักกับขนมหวานในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ได้อย่างไร

3. Kobanten : เพลิดเพลินกับฮิตสึมาบุชิรสเลิศ เมนู “ปลาไหลย่างถ่าน” อาหารขึ้นชื่อของนาโกย่า 

สำหรับมื้อกลางวัน ลองแวะไปที่โคบันเท็น (Kobanten) ร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นเลิศในเฮกินัน ที่เปิดกิจการมานานกว่า 100 ปี ทางร้านเน้นใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น เช่น อาหารทะเลจากอ่าวมิคาวะ (Mikawa Bay) ผักท้องถิ่น และเครื่องปรุงรสประเภทหมัก เช่น มิริน (เหล้าหวานสำหรับปรุงอาหาร) โชยุ และมิโซะ โดยนำมาผสานเข้ากับอาหารที่รังสรรค์ขึ้น

เชฟของที่นี่ได้จากบ้านเกิดไปสั่งสมประสบการณ์ในที่ต่างๆ นอกจากจะมีเมนูพิเศษตามฤดูกาลในเมนูประจำร้าน ยังจะได้รับประสบการณ์อาหารใหม่ๆ ทุกครั้งที่แวะมา

อย่าลืมลองชิมเมนูปลาไหลย่างถ่าน “ซุมิยากิ ฮิตสึมาบุชิ” (4,400 เยน) อาหารขึ้นชื่อในท้องถินของไอจิด้วยในเมนูนี้สามารถเพลิดเพลินกับอุนากิ (ปลาไหลแม่น้ำ) ได้หลากหลายวิธี

การได้เพลิดเพลินกับรสชาติอันหลากหลายของปลาไหลในรูปแบบต่างๆ เช่น วางวาซาบิบนปลาไหล, คลุกกับข้าว, โรยด้วยอาราเระ (ขนมข้าวอบกรอบ) และชาเขียวมัทฉะ หรือจะรับประทานพร้อมต้นหอมและเครื่องปรุงที่ชื่นชอบ คือหนึ่งในประสบการณ์อันหลากหลายของไอจิ

นอกจากนี้ ยังสามารถลิ้มลองเมนูตามฤดูกาลของ Kobanten เพื่อเพลิดเพลินกับรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของเฮกินันได้ด้วย ระหว่างแวะมาที่นี่ในฤดูใบไม้ผลิปี 2025 ผู้เขียนได้ลองชิมฟองดูฮัตโจมิโซะ ฮัตโจมิโซะคือมิโซะถั่วเหลืองคุณภาพพรีเมียมที่ผลิตในจังหวัดไอจิ ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องกลิ่นหอมและเนื้อสัมผัสที่เข้มข้น ฮัตโจมิโซะใช้ทำอาหารได้หลากหลาย ตั้งแต่เมนูในชีวิตประจำวันอย่างซุปมิโซะและสตูว์อุด้งไปจนถึงอาหารจานหรูในโอกาสพิเศษ

เมื่อรู้ถึงความพิเศษของฮัตโจมิโซะ จะเข้าใจความเลิศรสในเมนูฟองดูของ Kobanten ชัดเจนยิ่งขึ้น เมนูพิเศษนี้ประกอบด้วยผัก ของทอด และปลาไหล เสิร์ฟพร้อมซอสฮัตโจมิโซะอุ่นๆ รสเข้ม เพิ่มรสชาติด้วยท็อปปิ้งสุดสร้างสรรค์ 7 แบบที่เพิ่มความหลากหลายให้กับรสชาติ ได้แก่ คาเคาแมส (โกโก้เข้มข้น) มัสตาร์ด และพาร์เมซานชีส อาหารเลิศรสนี้เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงวัฒนธรรมอาหารอันอุดมสมบูรณ์ของเมืองเฮกินัน

Kobanten ตั้งอยู่ในระยะที่เดินจากสถานีเฮกินันจูโอมาได้ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ทุกคนต้องแวะ เมื่อมาเยือนเมืองเฮกินัน

ร้านอาหารญี่ปุ่นอิตโท (Itto) เป็นร้านที่แยกมาจาก Kobanten ตั้งอยู่ในซาคุซึคาโจ (Sakuzukacho) เมืองเฮกินัน ถือเป็นร้านอาหารในเครือของ Kobanten

4. Kanehara : เหมาะในการเลือกซื้อของฝาก มีทั้งเครื่องดื่ม ขนม สินค้าทำมือ และอื่นๆ

ร้านสุราคาเนฮาระ (Kanehara) อยู่ห่างจาก Kobanten ไม่กี่ก้าว จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และของขึ้นชื่อในท้องถิ่น มีเคาน์เตอร์บาร์ที่ช่วยสร้างความคึกคักให้กับเฮกินันด้วย

ร้านสุราคาเนฮาระจะแนะนำให้ลูกค้าลองชิมสาเกก่อนซื้อ ภายในร้านที่กว้างขวาง มีพื้นที่ให้ชิมสาเกต่างๆที่คัดสรรจากทั่วญี่ปุ่นกว่า 400 ชนิด ทั้งโชจู ไวน์ เบียร์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆ ของญี่ปุ่น ร้านสุราคาเนฮาระ ได้นำวัฒนธรรม “คาคุอุจิ” แบบดั้งเดิมมาใช้ โดยจัดมุมดื่มไว้ในร้านจำหน่ายสุรา รวมทั้งมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูและทำให้รูปแบบวัฒนธรรมนี้แพร่หลายเป็นที่นิยมในไอจิ

ร้านสุราคาเนฮาระไม่ได้เป็นแค่ร้านจำหน่ายสุรา แต่ยังเป็นคลังสัมบัติของสินค้าขึ้นชื่อในท้องถิ่นของเฮกินัน มีสินค้าขึ้นชื่อในท้องถิ่นที่คัดสรรอย่างดี เหมาะเป็นของฝากให้เลือกซื้อมากมาย ทางร้านยังจำหน่ายสินค้าที่คัดสรรอย่างพิถีพิถันมากมาย อย่างเครื่องปรุงรสที่ขาดไม่ได้ในการทำอาหารญี่ปุ่น เช่น ชิโระโชยุ ชิโระดาชิ และมิรินจากโรงผลิตมิรินทั้ง 5 แห่งในเฮกินัน รวมถึงกับแกล้มและของกินเล่นในท้องถิ่นที่เข้ากับสาเกด้วย

มีสินค้าออริจินัลต่างๆ เช่น เสื้อยืด หมวก ป้าย สติ๊กเกอร์ และผ้ากันเปื้อนที่ไม่เหมือนใครซึ่งที่ทำจากผ้ารีไซเคิล ช่วยนำความทรงจำจากการมาเยือนเฮกินันกลับไปเพลิดเพลินอย่างมีสไตล์ได้

ผู้ที่ชื่นชอบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รสเลิศ อย่าลืมแวะมาชิมที่ร้านสุราคาเนฮาระ และเลือกซื้อขวดที่เหมาะไปเป็นของฝากและของที่ระลึกกัน ยังมีกับแกล้มและเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ต่างๆ ครบครับ ที่นี่จึงถือเป็นขุมทรัพย์แห่งรสชาติ ที่ช่วยให้เพลิดเพลินกับรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นนี้อย่างสมบูรณ์แบบ

5. Kokonoe Mirin : ขนมหวานแสนอร่อยจาก “มิริน” ส่วนผสมลับในอาหารญี่ปุ่น

ปิดท้ายทริปกินเที่ยวนี้ ด้วยการเยี่ยมชมโรงงานของโคโคโนเอะมิริน (Kokonoe Mirin) อันเก่าแก่ ซึ่งเปิดกิจการในปี 1772 โคโคโนเอะมิรินเป็นต้นกำเนิดของมิคาวะมิริน เครื่องปรุงรสสำคัญที่ขาดไม่ได้ในอาหารญี่ปุ่น ที่นี่จะได้สัมผัสกับแก่นแท้ของวัตถุดิบที่สำคัญยิ่งนี้

มิรินเป็นเครื่องปรุงรสหวานที่ทำโดยการผสมข้าวเหนียว โคเมะโคจิ (โคจิข้าว) และโชจู (เหล้ากลั่น) แล้วหมักด้วยกระบวนการที่เปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาล แล้วเปลี่ยนน้ำตาลเป็นแอลกอฮอล์ (Saccharifcation และ Alcoholic Fermentation) เครื่องปรุงรสนี้ช่วยเพิ่มรสชาติอันหลากหลาย ความมันเงา และความหวานละเมียดที่มาจากข้าว ให้กับมาริเนด (น้ำซอสสำหรับหมักเนื้อสัตว์) ซอสเทอริยากิ ซอสต่างๆ อาหารประเภทต้มตุ๋น และอื่นๆ

ทัวร์ชมโรงงานโคโคโนเอะมิรินจะช่วยไขความลับของมิริน และขนบธรรมเนียมประเพณีอันหลากหลายของเฮกินัน ไกด์ผู้รอบรู้จะบอกเล่าคุณลักษณะพิเศษอันน่าทึ่งของมิรินอย่างสนุกสนาน ซึ่งจะพลิกความเข้าใจเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่น

ห้องนิทรรศการทางประวัติศาสตร์จัดแสดงแผนที่ของพื้นที่มิคาวะในสมัยเอโดะ ซึ่งจะทำให้เข้าใจความสำคัญทางวัฒนธรรมของมิรินในเชิงลึก โคโคโนเอะมิรินยังมีโกดังเก่าอายุกว่า 300 ปี และอาคารไม้ผนังสีดำอันเก่าแก่ ที่บอกเล่าเรื่องราวความรุ่งเรืองด้านการขนส่งทางน้ำของท้องถิ่นนี้

Picture courtesy of Kokonoe Mirin

หากต้องการลิ้มรสโคโคโนเอะมิรินอย่างเต็มที่ ขอแนะนำเคอัน (Restaurant & Cafe K-an) ทุกเมนูของที่นี่ใช้มิรินในการเพิ่มพลังรสชาติ เมนูมื้อกลางวันสุดทึ่งของที่นี่คือโมโรมิสึเกะโนะยากิซากานะ (ปลาย่างหมักโมโรมิ) และผัก

อย่าพลาดเมนูของหวานสุดพิเศษ อย่างพุดดิ้งและไอศกรีมที่ได้สัมผัสความหวานของมิริน หรือชีสเค้กสุดพิเศษที่ทำจากคาซุมิริน (กากมิริน) ความมหัศจรรย์ของมิรินคือการเปลี่ยนแปลง การต้มจะทำให้แอลกอฮอล์ระเหยออกไป เหลือไว้เพียงซอสคล้ายคาราเมลที่มีกลิ่นหอมและรสหวานธรรมชาติ เปลี่ยนขนมหวานให้เป็นมื้ออร่อยได้

เมื่อลิ้มลองของหวานมิรินของ K-an ทริปกินเที่ยวในเฮกินันก็สมบูรณ์แบบ และกลับบ้านพร้อมกับความชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นในรูปแบบใหม่ๆ รวมทั้งอยากลองชิมเมนูจากมิรินสูตรต่างๆ ที่บ้าน สามารถค้นหาสูตรอาหารได้ที่เว็บไซต์ทางการของโคโคโนเอะมิริน และฝึกฝนทักษะการทำอาหารด้วยรสชาติของเฮกินันกันได้

คลิกที่นี่เพื่อสมัครร่วมกิจกรรมของโคโคโนเอะมิริน (ภาษาญี่ปุ่น)

การเดินทาง: วิธีการเดินทางไปเฮกินัน

สามารถเดินทางจากสนามบินนานาชาติชูบุเซนแทรร์ (Chubu Centrair International Airport เรียกสั้น ๆ ว่า Centrair) ไปยังเฮกินันได้ในเวลาราว 1 ชั่วโมง 21 นาที โดยขึ้นรถลีมูซีนบัส จากอาคารผู้โดยสาร 1 ไปยังสถานี Kariya จากนั้น นั่งรถไฟ Meitetsu สาย Mikawa Line ไปลงที่สถานี Hekinan-Chuo

ถ้ามาจากสถานี Nagoya ให้ขึ้นรถไฟสายหลัก JR Tokaido Line ที่มุ่งหน้าไปทาง Okazaki ลงที่สถานี Kariya แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟ Meitetsu สาย Mikawa Line นั่งไปลงที่สถานี Hekinan (สถานี Hekinan-Chuo เป็นสถานีที่อยู่ถัดจากสถานี Hekinan ส่วนสถานี Kita-Shinkawa อยู่ห่างจากสถานี Hekinan 2 สถานี) สถานที่ทั้งหมดที่แนะนำในทริปนี้สามารถเดินจากสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดไปได้ หรือนั่งแท็กซี่ไปไม่ไกลนัก

แม้เฮกินันอาจไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นสะดุดตา แต่เป็นขุมทรัพย์ของอาหารแสนอร่อย สำหรับนักชิมและผู้ที่มองหาอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับแท้ๆ เฮกินันคือจุดหมายที่ไม่ควรพลาด รับรองว่าจะได้รับประสบการณ์การด้านอาหารที่จะเปลี่ยนชีวิตไปอย่างแน่นอน

เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง

หน้าเว็บไซต์นี้ใช้เครื่องมือแปลภาษาอัตโนมัติบางส่วน