language
ภาษาไทย

การหมักของญี่ปุ่นคือต้นกำเนิดของรสอูมามิ
ไปค้นหา "ความลับ" และ "เสน่ห์" ที่ซ่อนอยู่กัน!

นานมาแล้ว จังหวัดไอจิเคยเป็นพื้นที่ที่เหล่าซามูไรเคยปกครอง นอกจากจะมีปราสาทนาโกย่า
(Nagoya Castle) และจิบลิพาร์ค (Ghibli Park)ที่โด่งดังแล้ว ที่นี่ยังเป็นขุมทรัพย์ของวัฒนธรรม
อาหารที่เป็นต้นกำเนิดของรส "อูมามิ" รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารญี่ปุ่นด้วย

นาโกย่า (์Nagoya)

นาโกย่าตั้งอยู่ในภูมิภาคชูบุของญี่ปุ่น ถือเป็นศูนย์กลางการเดินทางทั้งทางอากาศและทางบก ด้วยสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและภูมิอากาศที่อำนวย วัฒนธรรมอาหารหมักที่มีเอกลักษณ์จึงได้ถือกำเนิดขึ้น 
คาบสมุทรจิตะ (Chita Peninsula) ที่ล้อมรอบด้วยอ่าวอิเสะ (Ise Bay) และอ่าวมิคาวะ (Mikawa Bay) เป็นพื้นที่ที่มีทัศนียภาพงดงาม และเป็นแหล่งผลิตสาเก (เหล้าญี่ปุ่น) น้ำส้มสายชู มิโซะ (เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น) และทามาริโชยุที่รุ่งเรืองมาช้านาน ในพื้นที่นิชิมิคาวะ (หรือพื้นที่มิคาวะตะวันตก เป็นพื้นที่กว้างใหญ่ซึ่งครอบคลุม 9 เมืองของจังหวัดไอจิในปัจจุบัน) ซึ่งเป็นบ้านเกิดของโทคุกาวะ อิเอยาซุ ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเครื่องปรุงรสประเภทหมักที่มีเอกลักษณ์ อย่างฮัตโจมิโซะและชิโระโชยุ (ซีอิ๊วขาวญี่ปุ่น)

ฮักโก (การหมักแบบญี่ปุ่น)

เทคนิคการหมักแบบญี่ปุ่นเป็นกุญแจสำคัญในการทำเครื่องปรุงรสที่กำหนดรสชาติของอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม และการผลิตสาเกที่ได้รับความนิยมทั่วโลก
คลิกที่นี่ (Link Button) เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

เรียนรู้เพิ่มเติม

บทความล่าสุด
ส่องประวัติศาสตร์ของโทโคนาเมะ ผ่านสาเกและเครื่องปั้นดินเผา
2025.04.17
อะไรคือเสน่ห์ของ HAKKO ในเมืองนาโกย่าที่นักชิมจากทั่วโลกต่างยกย่อง?
2025.04.17
เชฟโอซาดะ ฮายาฮิซะแห่งร้านอาหาร Itto: เผยแพร่ความหลากหลายของวัฒนธรรมอาหารหมักจากมินามิมิคาวะและจังหวัดไอจิไปสู่ทั่วโลก
2025.04.16
เสน่ห์ของโรงผลิตสาเกซาวาดะ โรงผลิตสาเกในจิตะที่สืบทอดกรรมวิธีการเก่าแก่แบบดั้งเดิม
2025.04.16
จากสถานีนาโกย่า ประมาณ 20 นาที! ทัวร์ชมวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์การหมักดองของญี่ปุ่นในเมืองกิฟุ
2025.04.16
เฮกินัน: อิ่มอร่อยกับอาหารเลิศรส ณ ถิ่นกำเนิดชิโระโชยุ
2025.04.15
ทริปเที่ยวฮันดะในจังหวัดไอจิ ไขความลับต้นกำเนิดของ “ซูชิ” อาหารญี่ปุ่นที่โด่งดัง ผ่าน “น้ำส้มสายชู”
2025.04.15
ผลิตภัณฑ์พิเศษของโอคาซากิที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลโชกุนโทคุงาวะ | ต้นกำเนิดของ "ฮัจโจมิโซ" ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปี
2025.04.15

Must-Visit

โทโคนาเมะ (Tokoname)
ฮันดะ (Handa)
ทาเคโทโยะ (Taketoyo)
โอคาซากิ (Okazaki)
เฮคินัน (Hekinan)

คาบสมุทรจิตะซึ่งมีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์นี้ มีวัฒนธรรมการผลิตด้วยการหมักที่เฟื่องฟู ซึ่งช่วยสนับสนุนให้สาเกมีความรุ่งเรืองขึ้นด้วย 
ในสมัยเอโดะ มีการขนส่งสาเกจำนวนมากจากเมืองต่างๆ ในคาบสมุทรจิตะไปยังเอโดะ
เมืองโทโคนาเมะก็เช่นกัน อีกทั้งที่นี่ยังเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองแห่งโรงผลิตสาเกและภาชนะต่างๆ ด้วย ว่ากันว่าสมัยก่อน เขตโอโนะ (Ono) ของเมืองโทโคนาเมะ เคยเป็นศูนย์กลางการผลิตสาเกในจังหวัดไอจิ โดยมีโรงผลิตสาเกมากกว่า 30 แห่งตั้งอยู่ที่นี่
ในสมัยที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้เช่นทุกวันนี้ การผลิตสาเกคุณภาพสูงที่เรียกว่า คันซึคุริ (การผลิตสาเกในฤดูหนาว) จำเป็นต้องมีสภาพแวดล้อมที่หนาวเย็น ในพื้นที่โทโคนาเมะนี้มีประวัติศาสตร์การผลิตสาเกแสนอร่อยโดยอาศัยเทคนิคการใช้ลมแรงที่หนาวเย็น ซึ่งพัดผ่านระหว่างหุบเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดไอจิ
ปัจจุบัน ยังมีโรงผลิตสาเกอยู่ 2 แห่ง แห่งหนึ่งยังคงใช้เครื่องมือไม้เหมือนสมัยก่อนในการผลิตสาเก ส่วนอีกแห่งคือโรงผลิตสาเกที่ผู้ก่อตั้งบริษัทโซนี่ (Sony) เป็นทายาท 
โรงผลิตสาเกทั้งสองแห่งเปิดให้เข้าชมและสัมผัสกิจกรรมทดลองชิมสาเก ดังนั้น ผู้ชื่นชอบสาเกจึงไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ ยังมีการนำเครื่องปั้นดินเผาโทโคนาเมะซึ่งถือกำเนิดในท้องถิ่นนี้มาใช้ในการหมักและเก็บรักษาสาเก เนื่องจากคุณสมบัติที่ช่วยป้องกันอากาศเข้าได้ดี จึงนิยมอใช้เป็นภาชนะสำหรับขนส่งเครื่องปรุงรสในสมัยเอโดะ ว่ากันว่าสาเกและมิริน (เหล้าหวานสำหรับปรุงอาหาร) ที่ผลิตในละแวกนี้จะใช้ภาชนะเหล่านี้ในการขนส่งไปยังเอโดะ (ปัจจุบันคือโตเกียว) พื้นที่ซึ่งมีการอุปโภคบริโภคมากที่สุด
ปัจจุบันความงดงามและคุณสมบัติการใช้งานของเครื่องปั้นดินเผาโทโคนาเมะยังคงเป็นที่ชื่นชอบของผู้คน โดยนิยมนำมาใช้เป็นภาชนะในพิธีชงชา รวมทั้งยังใช้เป็นจอกและภาชนะใส่สาเกด้วย
เมืองโทโคนาเมะอยู่ใกล้กับสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ (Chubu Centrair International Airport) ซึ่งเป็นประตูสู่พื้นที่ภาคกลางของญี่ปุ่นมากที่สุด จึงเดินทางมาสะดวกมากๆ และมี TOKONYAN แมวกวักนำโชค คอยต้อนรับทุกคนอยู่

เมืองฮันดะเป็นดินแดนแห่งน้ำส้มสายชูซึ่งเป็นวัตถุดิบที่สำคัญยิ่งในการทำซูชิ ปัจจุบันซูชิมีชื่อเสียงเป็นที่โจษจันไปทั่วโลก แต่เมื่อ 400 ปีก่อน ที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของธุรกิจที่มีส่วนในการบุกเบิกให้เอโดะมาเอะซูชิ (ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของนิกิริซูชิในปัจจุบัน) ได้รับความนิยมด้วย
Mizkan (มิซคันซึ่งภาษาญี่ปุ่นออกเสียงว่า มิตสึคัน) ได้รับแรงบันดาลใจจากโคเมซุ (น้ำส้มสายชูหมักจากข้าว) ซึ่งในสมัยนั้นมีราคาแพง โดยการนำสาเกคาซุ (กากสาเก) ที่เหลือทิ้งมาอัพไซเคิล (การนำวัสดุที่ไม่ใช้ มาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ) เป็นคาซุซุ (น้ำส้มสายชูหมักจากกากสาเก) ที่พิพิธภัณฑ์มิซคัน (MIZKAN MUSEUM เรียกสั้นๆ ว่า MIM) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์สร้างประสบการณ์เชิงปฏิบัติแห่งนี้ ไม่ได้เป็นแค่สถานที่เรียนรู้ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และกระบวนการผลิตน้ำส้มสายชูของญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ยังสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ และสัมผัสประสบการณ์การชิมเครื่องดื่มที่มีน้ำส้มสายชูเป็นส่วนผสม
นอกจากนี้ กลุ่มอาคารโกดังที่มีผนังสีดำริมคลองฮันดะ (Handa Canal) ซึ่งคงเค้าโครงความรุ่งเรืองของธุรกิจขนส่งทางทะเลเหล่านี้ ยังทำให้นึกถึงเรือขนส่งขนาดใหญ่ที่เข้าออกคลองแห่งนี้ในสมัยนั้น
ที่ร้านซูชิอุโอทาโระ (Uotaro) ใกล้ๆ กันนี้ มีข้าวซูชิจากน้ำส้มสายชูหลากชนิดให้ได้ลิ้มลองกันด้วย
ในเมืองยังมีโรงผลิตสาเกและอาคารอิฐแดงสไตล์ย้อนยุค รวมถึงสถานที่ต่างๆ ที่จัดกิจกรรมชิมเครื่องดื่มและเพลิดเพลินกับอาหารกลางวันกันด้วย

เคยได้ยินหรือรู้จักทามาริโชยุ (ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่นชนิดหนึ่ง) ที่ปราศจากกลูเตน ซึ่งกำลังได้รับความสนใจจากทั่วโลกไหม? 
ในทาเคโทโยะมีโรงผลิตทามาริโชยุตั้งอยู่ถึง 6 แห่ง โชยุ (ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น) ที่เต็มไปด้วยรสชาตินี้มีสีและรสที่เข้ม รวมทั้งอัดแน่นไปด้วยรสอูมามิ เหมาะเป็นเครื่องปรุงรสสำหรับซูชิและซาซิมิ
ปัจจุบัน โชยุเป็นเครื่องปรุงรสซึ่งได้รับการยอมรับอย่างสูงจากเชฟและนักชิมทั่วโลก
พื้นที่ทาเคโทโยะแห่งนี้อยู่ใกล้ทะเลและแม่น้ำ สมัยก่อนเคยรุ่งเรืองในฐานะเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้า ดังนั้นจึงมีข้อได้เปรียบอย่างมากในการหาถั่วเหลืองซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญนี้
โรงผลิตโชยุแต่ละแห่งยังคงสืบทอดกรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม และส่วนใหญ่ยังคงหมักโชยุในถังไม้ 
ในพื้นที่ซึ่งมีสภาพอากาศอบอุ่นและน้ำคุณภาพเยี่ยมแห่งนี้ มีอุตสาหกรรมการผลิตมิโซะและทามาริโชยุที่รุ่งเรืองมากจนได้รับการยอมรับให้เป็น 1 ใน “3 เมืองแห่งอุตสาหกรรมการหมักที่สำคัญ”  โดยอีก 2 แห่งก็คือ เมืองโจชิ (Choshi) ในภูมิภาคคันโต และเมืองทัตสึโนะ (Tatsuno) ในภูมิภาคคันไซ

เมืองโอคาซากิมีชื่อเสียงในฐานะเมืองประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นบ้านเกิดของโทคุกาวะ อิเอยาซุ โชกุนผู้โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่น และเป็นที่รู้กันว่าโทคุกาวะ อิเอยาซุนั้น เป็นผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ โดยเฉพาะในเรื่องของอาหารการกิน
มีเรื่องเล่าว่า เขาให้ความสำคัญกับวิธีการทำมิโซะของท้องถิ่นนี้มาก ขนาดที่เก็บวิธีการทำมิโซะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะนี้ไว้เป็นความลับไม่แพร่งพรายให้คนอื่นรู้ 
ด้วยเหตุนี้ มิโซะของโอคาซากิ โดยเฉพาะอัตโจมิโซะ จึงได้รับการอนุรักษ์สืบสานโดยผู้คนในท้องถิ่น และเป็นที่ชื่นชอบของชาวญี่ปุ่นมาจนถึงทุกวันนี้
ฮัตโจมิโซะเป็นมิโซะสีแดงเข้ม ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นของขึ้นชื่อในท้องถิ่นของโอคาซากิ 
มิโซะชนิดนี้ใช้ปรุงอาหารเลิศรสในท้องถิ่นหลากชนิด เช่น มิโซะคัตสึ (หมูทอดราดซอสมิโซะ) และมิโซะนิโคมิอุด้ง (อุด้งตุ๋นมิโซะ) 
นอกจากนี้ ซุปมิโซะของโอคาาซากิยังแตกต่างจากภูมิภาคอื่นๆ ในญี่ปุ่น ด้วยจุดเด่นของรสชาติเข้มข้นและสีแดงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
ใกล้ๆ กันนี้มีสวนสาธารณะที่มีปราสาทโอคาาซากิ (Okasaki Castle) ปราสาทซึ่งโทคุกาวะ อิเอยาซุเกิดตั้งอยู่ด้วย สามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติและทิวทัศน์ของปราสาทอันงดงามควบคู่กัน
ไปใช้เวลาพักผ่อนในสถานที่ซึ่งประวัติศาสตร์และธรรมชาติผสานเข้าด้วยกัน พร้อมดื่มด่ำกับเสน่ห์ของมิโซะของโอคาาซากิ ซึ่งสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยเอโดะกัน

เมืองเฮคินันเป็นที่รู้จักกันในฐานะท้องถิ่นที่เป็นต้นกำเนิดของชิโระโชยุและมิคาวะมิริน และเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางด้านอาหาร ที่นี่มี “โรงผลิตชิโระโชยุโดยเฉพาะ” ซึ่งหาได้ยากในญี่ปุ่นถึง 3 แห่ง ที่แม้ขณะนี้ก็ยังคงทุ่มเทอย่างหนักเพื่ออนุรักษ์สืบสานกรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมของตนไว้ 
ชิโระโชยุสีเหลืองอำพันนี้ เป็นเครื่องปรุงรสที่ขาดไม่ได้ในเมนูที่เน้นสีสันของวัตถุดิบ อย่างชาวังมุชิ (ไข่ตุ๋นสไตล์ญี่ปุ่น) และดาชิมากิทามาโกะ (ไข่ม้วนสไตล์ญี่ปุน)
เมืองเฮคินันยังมีชื่อเสียงในฐานะท้องถิ่นที่เป็นต้นกำเนิดของมิรินด้วย มิคาวะมิรินเป็นเหล้าหวานที่ทำจากข้าวเท่านั้น มีรสหวานชัดเจน ชาวญี่ปุ่นใช้เป็นเครื่องปรุงรสที่ให้ความหวานและกำลังเป็นที่สนใจของเชฟจากทั่วโลกด้วยเช่นกัน 
มิคาวะมิรินยังมีเสน่ห์มากเกินกว่าการเป็นแค่เครื่องปรุงรสเท่านั้น มีการนำมิคาวะมิรินมาใช้เป็นส่วนผสมลับในช็อกโกแลตและขนมหวานอื่นๆ ด้วย เมืองเฮคินันมีโรงผลิตเหล้ามิรินรวมกันอยู่ถึง 5 แห่ง (มากที่สุดในญี่ปุ่น) ดังนั้นจึงสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติของมิรินแต่ละแห่งได้
Kokonoe Mirin เป็นโรงผลิตมิรินที่เก่าแก่กว่า 250 ปี ทางเดินแคบๆ ที่ทอดยาวตามแนวกำแพงสีดำของโรงผลิตมิรินนั้นมีบรรยายกาศชวนให้นึกถึงวันวานเป็นอย่างยิ่ง ที่นี่ยังสามารถเข้าชมโรงงานและเพลิดเพลินกับอาหารกลางวันได้ด้วย (ต้องจองล่วงหน้า)